ผัวเก่าหึงโหดบุกแทงผัวใหม่เสียชีวิตคาผ้าเหลือง ปมแค้นแอบเป็นชู้กับเมียนาน 2 ปี

ร้อยเอ็ด-ผัวเก่าบุกวัดที่ร้อยเอ็ด แทงเณรคาผ้าเหลือง หลังโอกาสดี ผัวใหม่กลับมาบวชหน้าไฟให้ญาติ รีบหามส่ง รพ. แต่เสียชีวิตในที่สุด เจ้าตัวถูก ตร.จตุรพักตรพิมานจับ สารภาพแค้นผัวใหม่ ปมแอบคบกันนานกว่า 2 ปี

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2565 เวลา 16.40 น. ร.ต.อ.นิวัฒน์ เสี่ยงสาย รองสารวัตรสอบสวน สภ.จตุรพักตรพิมาน ได้รับแจ้งเหตุคนทะเลาะวิวาทใช้อาวุธมีดแทงกันได้รับบาดเจ็บ ภายในงานฌาปนกิจศพ ภายในวัดบ้านนางาม หมู่ที่ 5 ต.ดงกลาง อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับกู้ภัยอโสกจตุรพักตรพิมาน

ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณด้านข้างศาลากลางเปรียญของวัด ที่จัดงานฌาปนกิจศพญาติของเณรที่ถูกแทง พบชาวบ้านอยู่ในความตกใจ จึงได้เข้าไปสอบถาม ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า ได้มีคนร้ายบุกมาในงานศพ แล้วได้ใช้มีดแทง นายขวัญชัย ใสสุข อายุ 33 ปี ชาวบ้าน ม.5 ต.ดงกลาง อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด ขณะนั้นนายขวัญชัยเป็นเณรบวชหน้าไฟ อยู่ระหว่างทำพิธีลาสิกขา หลังถูกแทง ชาวบ้านได้นำตัวขึ้นรถกระบะของญาติ เร่งนำส่งโรงพยาบาลจตุรพักพิมาน แต่สุดท้ายเสียชีวิตในเวลาประมาณ 17.30 น. พบถูกแทงที่บริเวณใต้ราวนมฝั่งซ้าย และขาด้านขวา

หลังเกิดเหตุคนร้ายได้วิ่งหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่กระท่อม ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของวัดไปประมาณ 500 เมตร ชุดบูรณาการสืบสวนปราบปราม สภ.จตุรพักตรพิมาน ได้สนธิกำลังออกติดตามผู้ก่อเหตุจนสามารถจับกุมตัวได้ ก่อนคุมตัวไปนำชี้จุดซุกซ่อนมีดพก ยาวรวมด้ามประมาณ 10 ซม. ที่ใช้ในการก่อเหตุ ก่อนคุมตัวมาที่ สภ.จตุรพักพิมาน เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ดำเนินการตามกฎหมาย

สอบถาม นายอมร อนารัตน์ ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว ตนได้ไปขับรถรับจ้างที่ กทม. เพื่อหาเงินใช้ในช่วงโควิด-19 ส่งมาให้ภรรยาและลูก แต่ตนก็ไม่รู้ว่าภรรยาแอบไปมีชู้ ซึ่งทราบภายหลังคือภรรยาขายที่นา เอารถยนต์เข้าไฟแนนซ์ ก่อนที่จะหนีไปกับชายชู้ โดยมาทราบภายหลังว่าแอบคมหากันมานานกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เดินทางกลับมาที่หมู่บ้านก็จึงทราบเรื่องจากชาวบ้านถึงเรื่องราวของภรรยาที่แอบคบหา ถึงกับโกรธแค้นจึงได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุในวันนี้ ไม่มีอะไรจะฝากถึงอดีตภรรยา เพราะหมดรักแล้ว ส่วนญาติของผู้ตายก็ไม่มีอะไรจะพูด เพราะแค้นฝังใจที่น้องที่รู้จักกัน เคยกินเคยอยู่ด้วยกัน เป็นกลุ่มที่สนิท ไม่คิดว่าจะมาแอบคบกันกับภรรยาของตน จนทำให้ครอบครัวตนบ้านแตกสาแหรกขาด

จากการสอบถาม นายองอาจ โพธิ์สาร หลานผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุ ขณะที่กำลังพากันลาสิกขาจากการเป็นสามเณรบวชหน้าไฟอยู่บนศาลาการเปรียญ ขณะนั้นผู้ก่อเหตุขึ้นมาบนศาลา แล้วได้ร้องเอะอะโวยวาย จากนั้นก็วิ่งตรงมาทางผู้ตาย เหมือนจะทำร้าย ผู้ตายจึงลุกวิ่งหนีลงจากศาลาไปด้านข้างของศาลา คนก่อเหตุก็วิ่งตามลงไป แล้วใช้มีดที่พกมาแทงผู้ตายไป 2 ครั้ง ก่อนจะวิ่งหลบหนีไป ส่วนผู้ตายเมื่อรู้ว่าตัวเองโดนแทง จึงวิ่งกลับขึ้นมาบนศาลา พอวิ่งขึ้นมาบนศาลา จากนั้นก็วิ่งไปหาคนที่อยู่บริเวณนั้นให้ช่วย ก่อนที่คนอยู่บริเวณนั้นจะนำตัวขึ้นรถไปโรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน

หลานผู้เสียชีวิต กล่าวอีกว่า อยากฝากคนที่ลงมือว่า ไม่รู้ว่าจะเคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่ก็ไม่ควรที่จะมาทำแบบนี้ เพราะนี่คือในวัด อีกอย่างคนที่โดนแทงก็ยังอยู่ในผ้าเหลืองด้วย มีอะไรก็ควรที่จะคุยกันดีๆ จากนั้น นายองอาจ ได้พาผู้สื่อข่าวได้ดูบริเวณที่คนก่อเหตุใช้มีดแทงผู้เสียชีวิต จุดเกิดเหตุอยู่ด้านข้างของศาลา ในที่เกิดเหตุยังมีร่องรอยของเลือดที่หยดตามพื้นบันไดของศาลา

สอบถามชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ทุกคนไม่เคยคิดว่านายอมรผู้ก่อเหตุจะกล้าลงมือฆ่ากันคาผ้าเหลืองในงานศพ เพราะก่อนหน้านี้อดีตภรรยานายอมรก็เลือกที่จะไปคบกับผู้ตาย แต่นายอมรก็ยังตามรังควานไม่หยุด จนทั้งคู่ไม่สามารถมาใช้ชีวิตที่หมู่บ้านตัวเองได้ แต่ในวันนี้ผู้ตายจำเป็นต้องมาร่วมงานศพยายที่เป็นญาติกัน แต่นายอมรก็จิตใจโหดร้ายมากที่ลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจ ก็อยากให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง